จดแจ้งปลูกกัญชา-กัญชงแล้ว 991,919 คน กก.บูรณาการนโยบายเร่งทำความเข้าใจ ปชช.
วันนี้ (12 กรกฎาคม 2565) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดให้ประชาชนที่สนใจปลูกกัญชา กัญชง เข้าไปลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์ นับตั้งแต่มีการปลดล็อกให้สามารถกัญชา กัญชง ได้ตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายนที่ผ่านมา ล่าสุด อย.ได้รายงานสถิติการเข้าใช้งานแอพลิเคชั่น “ปลูกกัญ” ณ เวลา 07.00 น. วันที่ 12 กรกฎาคม 2565 มีจำนวนการลงทะเบียนแล้ว 991,919 คน
ในจำนวนนี้ แบ่งเป็น ออกใบรับจดแจ้งกัญชา 960,864 ใบ ออกใบรับจดแจ้งกัญชง 31,056 ใบ
และมีจำนวนเข้าใช้งานระบบ 43,829,723 ครั้ง
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคมที่ผ่านมา นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบูรณาการนโยบายพืชกัญชาและกัญชง ครั้งที่ 2/2565 โดยมี นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัด สธ. นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงยุติธรรม กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานอัยการสูงสุด กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กรมประชาสัมพันธ์ คณะแพทยศาสตร์ 3 สถาบัน (จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ศิริราชพยาบาล โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล) แพทยสภา สภาเภสัชกรรม สภาการแพทย์แผนไทย รวมทั้งผู้แทนภาคประชาชนทเข้าร่วม
นายอนุทิน กล่าวว่า รัฐบาล และ สธ.มีนโยบายเร่งด่วนในการพัฒนาพืชกัญชา กัญชง เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์และสุขภาพ ตลอดจนพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์สินค้าอุตสาหกรรมต่างๆ ให้เกิดประโยชน์ในการเสริมสร้างรายได้ของประชาชน โดยนับตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายน 2565 เป็นต้นมา ได้ขับเคลื่อนจนสามารถทำให้พืชกัญชาและพืชกัญชงไม่ถูกควบคุมเป็นยาเสพติด เหลือแต่สารสกัดที่มีทีเอชซี (THC) เกินร้อยละ 0.2 เท่านั้นที่ยังคงเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 ดังนั้น เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการใช้พืชกัญชา กัญชงทางการแพทย์ เศรษฐกิจ และอุตสาหกรรม คณะกรรมการบูรณาการนโยบายพืชกัญชาและกัญชง จึงได้ตั้งคณะอนุกรรมการ 6 ด้าน เพื่อขับเคลื่อนนโยบายส่งเสริมการใช้พืชกัญชากัญชง ได้แก่ 1.คณะอนุกรรมการด้านการแพทย์และบำบัดฟื้นฟู 2.คณะอนุกรรมการด้านการให้ความรู้แก่เยาวชน ประชาชน เพื่อป้องกันผลกระทบทางสังคม 3.คณะอนุกรรมการด้านการผลิตทางเกษตรกรรม 4.คณะอนุกรรมการด้านการป้องกันการลักลอบนำเข้า การผลิตที่ผิดกฎหมาย 5.คณะอนุกรรมการด้านกฎหมาย และ 6.คณะอนุกรรมการด้านสื่อสารประชาสัมพันธ์ขึ้น เพื่อให้สามารถบูรณาการการทำงานได้อย่างครอบคลุม ตลอดจนติดตามและประเมินสถานการณ์ผลกระทบที่เกิดขึ้นเพื่อกำหนดมาตรการคุ้มครองประชาชนร่วมกัน
นายอนุทิน กล่าวว่า ขณะนี้ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กัญชา กัญชง พ.ศ. … ยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมาธิการ ดังนั้น จึงจำเป็นต้องมีกลไกการดำเนินงานที่รัดกุมเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบทางสังคม จึงต้องเร่งสร้างการรับรู้ ความเข้าใจ และให้คำแนะนำแก่ประชาชน รวมทั้งวางมาตรการที่เหมาะสมและเป็นประโยชน์ เพื่อให้การปลูกและการใช้พืชกัญชาและกัญชงเกิดประโยชน์สูงสุด โดยไม่ทำให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยและอันตรายแก่ประชาชน และต้องไม่ปิดกั้นการศึกษาวิจัยทางการแพทย์ รวมถึงการใช้ประโยชน์ทางเศรษฐกิจในอนาคต ซึ่งจากผลสำรวจการรับรู้ข้อมูลประเด็นกัญชาของประชาชนระหว่างวันที่ 30 มิถุนายน – วันที่ 6 กรกฎาคม 2565 ยังพบว่า ประชาชนมีความรับรู้ในเชิงบวก ร้อยละ 12 ความคิดเห็นทั่วไป ร้อยละ 52 และความคิดเห็นเชิงลบ ร้อยละ 36
“สธ.ขอยืนยันเจตนารมณ์การใช้กัญชา กัญชง เพื่อทางการแพทย์และสุขภาพเท่านั้น ซึ่งถือเป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล โดยจะสนับสนุนผู้ที่จะนำไปใช้ในทางที่ถูกต้อง นอกเหนือจากนี้ เจ้าหน้าที่บ้านเมือง และเจ้าพนักงาน สามารถดำเนินคดีตามกฎหมายได้ทันที” นายอนุทิน กล่าว
ขอขอบคุณแหล่งข้อมูล : matichon.co.th