Contact us on +084-040-4440 or admin@westlandherb.com

อัพเดท ! อาหาร “กัญชา” และ “กัญชง” อยากขายต้องทำอย่างไร

อัพเดท ! อาหาร “กัญชา” และ “กัญชง” อยากขายต้องทำอย่างไร
August 26, 2022 klahan

ปัจจุบัน “ตลาดกัญชา” กัญชง กำลังได้รับความสนใจเป็นอย่างมากหลังจากการ “ปลดล็อกกัญชาพ้นยาเสพติด” โดยเฉพาะการนำไปประกอบอาหาร ขณะเดียวกัน ผู้ประกอบการ ต้องทำตามแนวทางที่ถูกต้องเพื่อให้ปลอดภัยสำหรับผู้บริโภค

ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจ และธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย มีการประเมินมูลค่าตลาดของอุตสาหกรรมกัญชา โดยจากการประมาณการณ์พื้นที่เพาะปลูกกัญชง-กัญชา ล่าสุด ณเดือนเม.ย. 2565 ไทย มีพื้นที่เพาะปลูกกว่า 7,500 ไร่ มีมูลค่าตลาดของอุตสาหกรรมตั้งแต่ต้นน้ำ ถึงผลิตภัณฑ์ปลายน้ำ รวมกว่า 28,000 ล้านบาท แบ่งเป็น

ผลิตภัณฑ์ต้นน้ำ

  • มูลค่า 9,615 ล้านบาท
  • ช่อดอกแห้ง 8,123 ล้านบาท
  • ใบแห้ง 1,128 ล้านบาท
  • เมล็ด 140 ล้านบาท
  • ส่วนอื่นๆ 224 ล้านบาท

 

ผลิตภัณฑ์กลางน้ำ

  • สารสกัดเข้มข้น 12,410 ล้านบาท
  • น้ำมันกัญชา/น้ำมันกัญชง1,383 ล้านบาท
  • เส้นใยกัญชง 896 ล้านบาท

 

ผลิตภัณฑ์ปลายน้ำ

  • ยารักษาโรคและอาหารเสริมมีมูลค่า 1,500 ล้านบาท
  • อาหารและเครื่องดื่ม 1,200 ล้านบาท
  • เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ 800 ล้านบาท
  • เครื่องนุ่งห่มและของใช้ส่วนตัว 250 ล้านบาท

 

และยังมีการคาดการณ์ว่ามูลค่าตลาดในช่วง 3 ปีข้างหน้า จะโตได้ 10-15% มีมูลค่าสูงถึง 42,800 ล้าน โดยผลิตภัณฑ์ปลายน้ำจะเติบโตเร่งกว่าปัจจุบัน โดยคาดว่าจะสร้างรายได้ให้เกษตรกรสูงถึง 800,000 บาทถึง 1.2 ล้านบาทต่อไร่ต่อปี หรือเฉลี่ย 1 ล้านบาทต่อไร่ต่อปี หากเทียบกับการปลูกข้าว เกษตรกรจะมีรายได้จะอยู่ที่ 10,000-15,000 บาทต่อปี

 

ทั้งนี้ หลังจากที่ เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศเกี่ยวกับการควบคุมกัญชา 2 ฉบับเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา โดยระบุถึง หลักเกณฑ์ วิธีการ การควบคุมคุณภาพและการจัดการสุขลักษณะของการจำหน่ายอาหารประเภทปรุงสำเร็จในสถานที่จำหน่ายอาหาร โดยเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมที่เกี่ยวกับการนำ กัญชา หรือ กัญชง มาทำอาหารเพื่อจำหน่าย โดยให้เพิ่มข้อ 6/1 “อาหารประเภทปรุงสำเร็จตามข้อ 5 และข้อ 6 ที่มีการนำกัญชา หรือ กัญชงมาใช้เป็นส่วนประกอบในการทำประกอบ หรือปรุงอาหาร ให้ดำเนินการเพิ่มเติม

 

ขายอาหาร กัญชา กัญชง ต้องทำอย่างไร

 

สำหรับผู้ที่ต้องการจำหน่ายอาหารปรุงสุกที่มีส่วนประกอบของ กัญชา และ กัญชง ดำเนินการดังต่อไปนี้

 

1. แสดงข้อความหรือป้ายสัญลักษณ์ว่าเป็นสถานที่จำหน่ายอาหารที่มีการใช้ “กัญชา” หรือ “กัญชง” เป็นส่วนประกอบในอาหารประเภทปรุงสำเร็จ

 

2. แสดงรายการอาหารที่มีการใช้ “กัญชา” หรือ “กัญชง” เป็นส่วนประกอบในอาหารประเภทปรุงสำเร็จทั้งหมด

 

3. แสดงข้อแนะนำความปลอดภัยในการบริโภคอาหารที่มี “กัญชา” หรือ “กัญชง” เป็นส่วนประกอบ ได้แก่

  • บุคคลที่มีอายุต่ำกว่ายี่สิบปี สตรีมีครรภ์ และสตรีให้นมบุตรควรงดเว้นรับประทาน
  • ถ้ามีอาการผิดปกติ  ควรหยุดรับประทานทันที และถ้ามีอาการรุนแรงให้ปรึกษาหรือพบแพทย์โดยเร็ว
  • ผู้ที่แพ้กัญชา หรือกัญชง  ควรงดเว้นรับประทาน
  • รับประทานแล้วเกิดอาการง่วง ซึม ให้หลีกเลี่ยงการขับขี่ยานพาหนะหรือทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักรกล

หลักสูตรอบรม ประกอบอาหาร กัญชา กัญชง ปลอดภัย

 

ขณะเดียวกัน กรมอนามัย ได้กำหนดหลักสูตรใช้กัญชา กัญชง ในการทำ ประกอบ หรือปรุงอาหารที่ปลอดภัย เป็นหัวข้อวิชาหนึ่งใน “การอบรมผู้ประกอบกิจการและผู้สัมผัสอาหาร พ.ศ. 2565” เพื่อสร้าง ความรู้ความเข้าใจในการนำกัญชา กัญชงมาทำอาหารจำหน่ายอย่างปลอดภัยโดยมีทั้งหมด 2 หลักสูตร คือ

  • หลักสูตรผู้ประกอบกิจการ
  • หลักสูตรผู้สัมผัสอาหาร

มีระยะเวลาในการอบรม 30 นาที

 

ประเด็นสำคัญในการอบรม

 

  • คุณค่าทางโภชนาการของกัญชา กัญชง และโทษในกรณีบริโภคไม่เหมาะสม
  • การนำกัญชากัญชง มาใช้เป็นส่วนประกอบในการทำ ประกอบ หรือปรุงอาหารที่เหมาะสมและปลอดภัยต่อผู้บริโภค
  • ข้อปฏิบัติในการนำกัญชาหรือกัญชงมาใช้ในการทำ ประกอบ หรือปรุงอาหาร
  • โดยในหลักสูตรของผู้ประกอบกิจการจะเพิ่มเรื่องบทบาท หน้าที่ของผู้ประกอบกิจการในการควบคุมกำกับ ดูแลการใช้กัญชาหรือกัญชงในสถานที่จำหน่ายอาหาร

 

ตัวอย่างเมนูอาหารกัญชาไทย

 

ทั้งนี้เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา โรงพยาบาลอภัยภูเบศร เปิดตัวร้านอาหาร “กัญชารส” ร้านอาหารเอาใจสายเขียว จัดเต็มเมนู กัญชา ชูรสชาติด้วยสมุนไพรไทยโบราณ ในรูปแบบอาหารฟิวชันกัญชาไทย 4 เมนูเด็ด ได้แก่

1. “รื่นเริง บันเทิงยำ” เติมเต็มทุกคำ สุขล้ำทุกเวลา (ใส่กัญชา 5 ใบต่อจาน)

2️. “กระเพราสุขใจ” กินมื้อไหนก็ไม่เบื่อ (ใส่กัญชา 1/2 ใบต่อจาน)

3️. “ขนมปังคิกคัก” กินเสริมเวลาพัก แล้วจะรักทุกคำ (ใส่กัญชา 2 ใบต่อจาน)

4️. “เล้งแซ่บซดเพลิน” ช่วยเจริญอาหาร (ใส่กัญชา 5 ใบต่อจาน)

 

ร้านอาหารนี้ ถือเป็นหนึ่งในเมนูคนรักสุขภาพรูปแบบใหม่ในช่วงดังกล่าว ต่อยอดนโยบาย “ปลดล็อกกัญชา” ที่อนุมัติให้ใช้ กิ่ง-ก้าน-ใบ ของต้นกัญชา โดยไม่ผิดกฎหมาย

ไม่ควรบริโภคอาหารที่มี “กัญชา” เกิน 2 เมนูต่อวัน

 

แม้จะมีการอนุญาตให้นำกัญชา และ กัญชง มาประกอบอาหารภายใต้แนวทางที่กำหนด อย่างไรก็ตาม “กรมอนามัย” แนะประชาชนไม่ควรบริโภคอาหารที่มีส่วนผสมของ “กัญชา” 2 เมนูต่อวัน และขอให้ประชาชนหมั่นสังเกตอาการหลังกินอาหารที่มีส่วนผสมของกัญชาว่ามีอาการแพ้หรือไม่ พร้อมเตรียมออกข้อมูลแนวทางการบริโภคกัญชาอย่างถูกต้อง

 

นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย แนะว่า ประชาชนไม่ควรกินอาหาร น้ำดื่ม และขนม ที่มีส่วนผสมของกัญชาไม่เกินวันละ 2 เมนู โดยในเมนูอาหารที่ใส่ใบกัญชาต้องใส่ไม่เกิน 2 ใบ

 

ส่วนกลุ่มอาการ “แพ้กัญชา” จะมีอยู่ 3 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ไม่มีอาการอะไรเลย กลุ่มที่มีอาการแพ้ เช่น หน้าแดง มีผื่นขึ้นตามตัว และ กลุ่มที่ไม่มีอาการทันที แต่ต้องคอยระยะเวลาในการออกอาการแพ้ หรือเกิดอาการแพ้หากบริโภคในปริมาณมาก ซึ่งกลุ่มอาการแพ้ที่ 2 จำเป็นต้องได้รับคำแนะนำในการบริโภค ส่วนกลุ่มที่ 3 ควรต้องจำกัดปริมาณในการบริโภค

 

“ผู้ที่บริโภคอาหารที่มีส่วนผสมของกัญชาด้วยว่าไม่ควรขับรถ ไม่ควรใช้เครื่องจักร และไม่ควรทำงานในที่สูง ทั้งนี้ กรมอนามัย จะจัดทำแนวทางคู่มือบริโภคกัญชาอย่างถูกต้อง เพื่อให้ประชาชนบริโภคผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกัญชาอย่างปลอดภัย” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว

 

ขอขอบคุณแหล่งข้อมูล : bangkokbiznews.com